วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555
เคล็ดลับเด็กค่ายGenius
เคล็ดลับดีๆๆที่นำมาฝากเพื่อนๆๆ
1 : รู้ก่อนเพื่อน
รู้ก่อนเพื่อน คือ ทุกครั้งก่อนเข้าเรียน น้องๆ ควรอ่านเรื่องที่จะเรียนมาล่วงหน้าก่อน เพื่อให้รู้เนื้อหาหรือขอบเขตคร่าวๆ ของสิ่งที่เราจะเรียนกันในวันนั้น เพื่อเป็นการปูความรู้พื้นฐานให้มีอยู่ในหัว พอได้เข้ามานั่งเรียนจริง เรื่องง่ายก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายมากก ส่วนเรื่องยากก็อาจจะกลายเป็นเรื่องง่ายของเรา อาการนั่งเอ๋อ เกาหัวหมดไปแน่นอน
สรุปแล้วในทุกๆ คืน ขอให้น้องๆ หยิบแผนการสอน หรือ course syllabus ขึ้นมาดูว่าพรุ่งนี้เราเรียนเรื่องอะไร แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านในบทนั้น ตรงไหนไม่เข้าใจก็ให้ทำเครื่องหมายไว้ แล้วตั้งใจฟังในห้องเรียน หรือ เก็บไว้ถามคุณครูก็ได้
2 : ใส่ใจเพิ่ม 100% ในวิชาที่คิดว่าตัวเองยังไม่ปึ้ก
วิชาเรียนในแต่ละเทอมมีเกือบสิบวิชา ก็ต้องมีทั้งวิชาที่เราถนัดและไม่ถนัด ซึ่งวิชาที่ไม่ถนัดเป็นตัวฉุดให้เราได้คะแนนที่ไม่ดี หากเป็นคนทั่วๆ ไป ก็คงจะเกลียดเข้าไส้กันไปข้าง แต่ถ้าอยากพัฒนาตัวเองจริงๆ ต้องวิ่งสวนทางเหมือนพี่นิชคุณ 555 ไม่เกี่ยว!! คือ เราต้องวิ่งเข้าหาไม่ใช่วิ่งหนี เมื่อรู้ว่าไม่ถนัด ก็ควรใส่ใจเพิ่มมากขึ้น เช่น ตั้งใจฟังมากขึ้น พยายามทำการบ้านให้ได้มากขึ้น เข้าหาครูมากขึ้นการเข้าใจในวิชาที่ไม่ถนัด ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ต้องทำให้ได้นะ^^
ส่วนวิชาที่ชอบและปึ้กแล้ว ก็ขอให้รักษามาตรฐานของตัวเองต่อไป
3 : หาเทคนิคการจำแบบฉบับของตัวเอง
ข้อสอบมัธยมส่วนใหญ่จะมาเป็นข้อสอบช้อยส์และเน้นความจำ ถ้าท่องแบบธรรมดา เตรียมตัวมาไม่ดี แค่วิ่งสะดุดบันไดก็อาจทำให้ลืมที่ท่องมาทั้งหมดได้ ดังนั้นควรสร้างเทคนิคส่วนตัว เพื่อให้ข้อมูลอยู่ในระบบความจำของเรานานขึ้น อย่างเช่น ใครจำตารางธาตุไม่ได้ เดี๋ยวนี้ก็มีหลายคนพยายามทำออกมาเป็นเพลงช่วยจำหลายเวอร์ชั่น ซึ่งน้องๆ หาดูได้ตามเว็บ youtube หรือการท่องจำวิชาอื่นๆ ก็ใช้หลักเดียวกันได้ คือ จำเป็นเพลง จำเป็นจังหวะ สมองเราจะจดจำได้นานขึ้น ซึ่งวิธีนี้ห้องเรียนกวดวิชาก็ใช้เป็นเทคนิคอันดับต้นๆ เลย
4 : ขอหนังสือจากรุ่นพี่มาอ่าน
หากมีรุ่นพี่ที่รู้จักและสนิทพอสมควร ก็ลองเอ่ยปากถามขอชีทหรือหนังสือไว้อ่านเตรียมสอบก็ได้นะคะ เพราะพี่มิ้นท์ก็เคยใช้วิธีนี้ตอนเรียน โดยเฉพาะตอนขึ้น ม.6 ก็ขอหนังสือจากรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ส่วนใหญ่ใจดีให้แน่นอน อาจจะได้เยอะกว่าที่คิดไว้ก็ได้
จุดโฟกัสไม่ใช่แค่ได้หนังสือฟรี แต่น้องจะได้ความรู้และเทคนิคที่พี่เค้าจดมาให้ด้วย ดีไม่ดีหนังสือที่ได้ก็เป็นหนังสือกวดวิชาของพี่ๆ เค้านั่นแหละค่ะ แค่กลับมาตั้งใจทบทวน ก็ไม่ต้องเสียเงินไปเรียนกวดวิชาแล้ว
5 : เข้าห้องสมุด หาหนังสือเพิ่ม
หนังสือที่ใช้เรียนอยู่ตอนนี้ อาจตอบโจทย์ความรู้ที่อยากได้ไม่ดีพอ แทนที่จะหันไปเรียนพิเศษ ลองเอาเวลาเหล่านั้นเข้าห้องสมุด หาหนังสืออ่านเพิ่มเองก็ได้ประโยชน์มากพอๆ กัน หากไม่เดือดร้อนก็ซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มซักสองสามเล่ม แต่ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น ห้องสมุดของน้องๆ จะกลายเป็นพระเอกก็งานนี้ ในห้องสมุดของโรงเรียนมีหนังสือเป็นพันๆ เล่ม รอน้องๆ ยืมไปอ่านอยู่นี่แหละจ้า
แต่ความยากของเคล็ดลับนี้ คือ ไม่มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชหรืออธิบายทุกเรื่อง จึงเป็นหน้าที่ของน้องๆ ที่จะต้องจริงจังและทุ่มเทไปกับการอ่าน และการหาความรู้มากกว่าคนอื่นๆ แต่ถ้าทำได้ล่ะก็ 4.00 ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
cr.P'Mint
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)